เมนู

เธอแล้ว. เธอเป็นผู้มีความประพฤติชั่ว อันพวกผู้มีความประพฤติชั่ว
แวดล้อมอยู่ วันหนึ่ง คิดว่า " เราจักสวดปาติโมกข์ " จึงถือพัดไปนั่ง
บนธรรมาสน์ในโรงอุโบสถแล้ว ถามว่า " ผู้มีอายุ ปาติโมกข์ย่อมเป็นไป
เพื่อภิกษุทั้งหลายผู้ประชุมกันแล้วในที่นี้หรือ ?" เห็นภิกษุทั้งหลายนิ่งเสีย
ด้วยคิดว่า " ประโยชน์อะไร ด้วยคำโต้ตอบที่เราให้แก่ภิกษุ ?" จึง
กล่าวว่า " ผู้มีอายุ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ไม่มี, ประโยชน์อะไรด้วย
ปาติโมกข์ ที่พวกท่านจะฟังหรือไม่ฟัง" ดังนี้แล้ว ก็ลุกไปจากอาสนะ.
เธอยังศาสนาคือปริยัติของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปให้
เสื่อมลงแล้วด้วยอาการอย่างนี้. แม้พระโสธนเถระก็ปรินิพพานในวันนั้น
เอง.
ในกาลสิ้นอายุ ภิกษุกปิละเกิดในอเวจีมหานรก. มารดาและน้อง-
สาวของเธอแม้นั้น ถึงทิฏฐานุคติของเธอนั่นแล ด่าบริภาษภิกษุทั้งหลาย
ผู้มีศีลเป็นที่รักแล้ว ก็บังเกิดในอเวจีมหานรกนั้นเหมือนกัน.

โจรเกิดในเทวโลกด้วยอำนาจของศีล


ก็ในกาลนั้น บุรุษ 500 คนทำโจรกรรมมีการปล้นชาวบ้านเป็นต้น
เป็นอยู่ด้วยกิริยาของโจร ถูกพวกมนุษย์ในชนบทตามจับแล้ว หนีเข้าป่า
ไม่เห็นที่พึ่งอะไรในป่านั้น เห็นภิกษุผู้อยู่ในป่าเป็นวัตรรูปใดรูปหนึ่ง
ไหว้แล้ว กล่าวว่า " ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของพวกข้าพเจ้า
เถิด."
พระเถระกล่าวว่า " ชื่อว่าที่พึ่งเช่นกับศีล ย่อมไม่มีแก่ท่านทั้งหลาย,
พวกท่านแม้ทั้งหมดจงสมาทานศีล 5 เถิด."
โจรเหล่านั้นรับว่า " ดีละ" ดังนี้แล้ว สมาทานศีลทั้งหลาย.

ลำดับนั้น พระเถระตักเตือนโจรเหล่านั้นว่า " บัดนี้ พวกท่าน
เป็นผู้มีศีล; พวกท่านไม่ควรล่วงศีลแม้เพราะเหตุแห่งชีวิตเลย; ความ
ประทุษร้ายทางใจ ก็ไม่ควรทำ." โจรเหล่านั้นรับว่า " ดีละ " แล้ว.
ครั้งนั้น ชาวชนบทเหล่านั้น (มา) ถึงที่นั้นแล้ว ค้นหาข้างโน้น
ข้างนี้ พบโจรเหล่านั้นแล้ว ก็ช่วยกันปลงชีวิตเสียทั้งหมด. พวกโจร
เหล่านั้นทำกาละแล้ว ก็บังเกิดในเทวโลก. หัวหน้าโจรได้เป็นหัวหน้า
เทพบุตร.

เทพบุตรถือปฏิสนธิในตระกูลชาวประมง


เทพบุตรเหล่านั้น ท่องเที่ยวไปในเทวโลกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง ด้วย
อำนาจอนุโลมและปฏิโลม ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดแล้วในบ้าน
ชาวประมง 500 ตระกูล ใกล้ประตูพระนครสาวัตถี. หัวหน้าเทพบุตร
ถือปฏิสนธิในเรือนของหัวหน้าชาวประมง, พวกเทพบุตรนอกนี้ ถือ
ปฏิสนธิในเรือนชาวประมงนอกนี้. การถือปฏิสนธิและการออกจากท้อง
มารดาแห่งชนเหล่านั้น ได้มีแล้วในวันเดียวกันทั้งนั้น ด้วยประการฉะนี้.
หัวหน้าชาวประมงให้คนเที่ยวแสวงหาว่า " พวกทารกแม้เหล่าอื่น
ในบ้านนี้ เกิดแล้วในวันนี้มีอยู่บ้างไหม ?" ได้ยินความที่ทารกเหล่านั้น
เกิดแล้ว จึงสั่งให้ ๆ ทรัพย์ค่าเลี้ยงดูแก่ชาวประมงเหล่านั้น ด้วยตั้งใจว่า
" พวกทารกนั้น จักเป็นสหายของบุตรเรา." ทารกเหล่านั้นแม้ทุกคน
เป็นสหายเล่นฝุ่นร่วมกัน ได้เป็นผู้เจริญวัยโดยลำดับแล้ว บรรดาเด็ก
เหล่านั้น บุตรของหัวหน้าชาวประมงได้เป็นผู้เยี่ยมโดยยศและอำนาจ.

กปิละเกิดเป็นปลาใหญ่


แม้ภิกษุกปิละ ไหม้ในนรกสิ้นพุทธันดรหนึ่งแล้ว ในกาลนั้น